รถคันแรก ควรเลือกรถรุ่นไหนดี? นี่อาจเป็นคำถามคาใจสำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อรถคันแรกเป็นของตัวเองในช่วงนี้ ด้วยปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันซึ่งพุ่งสูงขึ้นทุกวัน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รถอีโค่คาร์ (eco car) หรือ B-Segment มียอดขายแซงหน้ารถยนต์กลุ่มอื่น ๆ เพราะทั้งประหยัดน้ำมัน ขับขี่คล่องตัว และค่าบำรุงรักษาไม่แพง โดยวันนี้ Carsome มีรถคันแรกน่าซื้อ ในปี 2022 มาฝากกันแบบจุใจถึง 10 คันเลย ไม่ว่ายังไงคนคันแรก ก็อยากได้แบบสวยๆ ความฝันของหลายๆคน คือซื้อรถมาแล้ว แต่งรถ ให้เป็นทีมฟุตบอล ที่ตัวเองชอบ เช่นที่นั่ง พวงมาลัย หมอนคอ สติกเกอร์ เพราะมันชอบ ไม่ว่าทีมไปแข่งเมื่อไร ตามไปเชียร์ ตามไป แทงบอล เพื่อสนุกกับการ เชียร์บอล

10 รถคันแรกน่าซื้อ ปี 2022

แทงบอล |1. Toyota YARIS ATIV 1.2 เริ่มต้น 539,000 บาท

หนึ่งในรถอีโค่คาร์ 4 ประตู (Sedan) ยอดขายดีเป็นอันดับที่ 2 ในช่วงต้นปี 2022 นี้ ถ้าพูดถึงยาริส เอทิฟ (Yaris ATIV) คงหนีไม่พ้นเรื่องของความทนทานของเครื่องยนต์ ดูแลง่าย ไม่จุกจิกตามสไตล์รถโตโยต้า (Toyota) ยาริส เอทิฟมีระบบช่วงล่างกับพวงมาลัยที่เซ็ตมาอย่างลงตัว แม้จะไม่ได้ให้ฟีลซิ่งแบบฮอนด้า แจ๊ส (Honda JAZZ) แต่ก็มีสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน ผสานกับรูปลักษณ์ใหม่ที่ทางโตโยต้า (Toyota) ปรับมาให้ยาริส เอทิฟ (Yaris ATIV) ดูโฉบเฉี่ยว น่ามองมากยิ่งขึ้นไม่แพ้ใคร ถ้าเรามีอาชีพที่ดีแล้ว ต้องมีรถสักคัน ไม่ว่า อาชีพอะไรก็ตาม ต้องอยากได้สักครั้นแลว่าไหม

ยาริส เอทิฟตัวล่าสุด ใช้เครื่องยนต์ Dual VVT-iE กำลังสูงสุด 93 แรงม้า พร้อมระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ ลิตร อีกทั้งยังมีระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Shift lock ที่ช่วยปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ดีมากขึ้น

จุดเด่น: ระบบความปลอดภัยครบครัน, ห้องโดยสารกว้าง, อะไหล่หาง่าย, ขายต่อได้ราคาดี

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: กล้องมองหลัง, ระบบ Apple Carplay, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน

รุ่นย่อย:

• Toyota YARIS ATIV 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
• Toyota YARIS ATIV 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
• Toyota YARIS ATIV 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท

แทงบอล |2. Mazda 2 1.3 เริ่มต้น 546,000 บาท

Mazda 2 1.3 รถยนต์กลุ่มอีโค่คาร์ตัวเริ่มต้นจากมาสด้า (Mazda) ที่ครองใจวัยรุ่นและคนที่ชื่นชอบการขับรถมาหลายปี เพราะต้องยอมรับว่า มาสด้า 2 (Mazda 2) คันนี้ ยังคงจุดเด่นของค่ายมาสด้าเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ตามสโลแกน Feel The Drive เน้นขับสนุก ช่วงล่างแน่น เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ พวงมาลัยแม่นยำมากที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน แถมวัสดุภายในของมาสด้า 2 ยังพรีเมียมหรูหรา ดูน่าใช้ รถคันนี้สวยมาก เห็นใน ซีรีส์จีน โครสวยแถมประหยัดน้ำมันโดน

เครื่องยนต์ Skyactiv ของมาสด้า 2 ยังมีให้เลือกถึง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร และอีกหนึ่งทางเลือกในยุคน้ำมันแพง นั่นคือ เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ที่ตอบสนองการขับขี่และการประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กิโลเมตร/ลิตร

จุดเด่น: มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล, ตัวถังมีทั้งแบบ 4 ประตูและ 5 ประตู, ขับขี่สนุก, ภายในพรีเมียม หรูหรา, ประหยัดน้ำมัน

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, Sport Paddle Shift, กล้องรอบทิศทาง, Cruise Control, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

รุ่นย่อย:

• Mazda 2 1.3 E/1.3 E Sports ราคา 546,000 บาท
• Mazda 2 1.3 C/ 1.3 C Sports ราคา 599,000 บาท
• Mazda 2 1.3 S Leather/1.3 Sports Leather ราคา 659,000 บาท
• Mazda 2 1.3 SP/1.3 SP Sports ราคา 690,000 บาท
• Mazda 2 XDL/XDL Sports ราคา 799,000 บาท

แทงบอล |3. Honda CITY 1.0 Turbo เริ่มต้น 579,500 บาท

สำหรับคนที่มีงบมากขึ้นสักหน่อย (500,000 – 800,000) ทาง CARSOME ขอแนะนำ ฮอนด้า ซิตี้ (Honda CITY) จากค่ายฮอนด้า (Honda) ที่ได้ยอดขายถล่มทลายแซงหน้า โตโยต้า ยาริส เอทิฟ (Toyota Yaris ATIV) ไปได้ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ หรือคือคว้ายอดขายอันดับ 1 ในรถกลุ่มอีโคคาร์ในช่วงต้นปีนี้มาได้ ด้วยการออกแบบภายนอกคงความสุขุมแบบผู้ใหญ่ ปนความสปอร์ตและหรูหรา ทำให้ถูกใจวัยรุ่นและวัยทำงาน นอกจากนั้น ยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฮอนด้า ซิตี้ ที่มาพร้อมดีไซน์ตัวถังแบบ 5 ประตู (Hatchback) เพิ่มความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น

ฮอนด้า ซิตี้โฉมล่าสุดนี้ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์พลังเทอร์โบรุ่นล่าสุดขนาด 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีดและระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) แม้ว่าเครื่องยนต์มีขนาดเล็ก แต่ความที่เป็นเครื่องเทอร์โบ ทำให้ฮอนด้า ซิตี้ มีอัตราเร่งดีเป็นอันดับต้น ๆ เทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน แถมอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

จุดเด่น: ตัวถังมีทั้งแบบ 4 ประตูและ 5 ประตู, ห้องโดยสารขนาดใหญ่ นั่งสบายทั้งคนขับและผู้โดยสารตอนหลัง, มีรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ไฮบริด (e-HEV), การออกแบบทันสมัยทั้งภายในและภายนอก, ขายต่อได้ราคาดี

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: กล้องมองหลัง, Sport Paddle Shift, Cruise Control

รุ่นย่อย: 

• Honda City S AT ราคา 579,500 บาท
• Honda City V ราคา 609,000 บาท
• Honda City SV ราคา 665,000 บาท
• Honda City RS ราคา 739,000 บาท
• Honda City e:HEV RS ราคา 839,000 บาท

4. Toyota VIOS 1.5 เริ่มต้น 609,000 บาท

โตโยต้า วีออส (Toyota VIOS) รถยนต์ 4 ประตู (Sedan) จากค่ายเจ้าตลาดโตโยต้า (Toyota) ที่ทำออกมาตีตลาดคนกำลังมองหารถคันแรกมาเป็นเวลานับสิบปี แอบกระซิบว่า ล่าสุดทางโตโยต้ากำลังเตรียมเปิดตัววีออสโมเดลใหม่ มาแทนโฉมปัจจุบันในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้นถ้าใครเป็นแฟนคลับค่ายโตโยต้า ต้องการรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนไม้ทนมือ ไม่มีปัญหาซ่อมจุกจิกให้กวนใจ ศูนย์บริการดูแลดี ทาง CARSOME ขอแนะนำให้กำเงินของคุณไว้ให้พร้อม เพราะอีกไม่นานเราก็จะได้เห็นโมเดลใหม่วางขายกันแน่นอน

โตโยต้า วีออสใช้เครื่องยนต์ Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร 108 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด มาช่วยส่งพลังให้ขับสนุกมากยิ่งขึ้น ผสานกับช่วงล่างของรถที่เซ็ตมาอย่างลงตัว ขับในความเร็วไม่รู้สึกโคลงเคลง ตอบโจทย์ทั้งการขับในเมืองและนอกเมือง รวมถึงการเก็บเสียงในห้องโดยสาร อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน

จุดเด่น: เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ทนทาน, ห้องโดยสารกว้าง, อะไหล่หาง่าย, ขายต่อได้ราคาดี

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: กล้องมองหลัง, กล้องบันทึกภาพหน้ารถแบบ Full HD ติดตั้งจากโรงงาน, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี

รุ่นย่อย: 

• Toyota VIOS 1.5 Entry ราคา 609,000 บาท
• Toyota VIOS 1.5 Mid ราคา 699,000 บาท
• Toyota VIOS 1.5 High ราคา 789,000 บาท

5. Honda JAZZ 1.5 เริ่มต้น 555,000 บาท  

ฮอนด้า แจ๊ส (Honda JAZZ) รถเล็ก 5 ประตู (Hatchback) ตัวฮิตตลอดกาลจากฮอนด้า (Honda) ที่แม้ว่าโมเดลนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 ยาวจนถึงปัจจุบัน แต่ยอดขายยังคงแรงดีไม่มีตกทั้งในประเทศไทยและแถบเอเชีย เพราะดีไซน์ทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่และคนในเมือง ภายนอกดูกระทัดรัด แต่การออกแบบพื้นที่ภายในทำให้ห้องโดยสารดูไม่คับแคบ อีกทั้งยังอเนกประสงค์ สามารถพับและปรับเปลี่ยนเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 4 โหมดการใข้งาน

เห็นคันเล็ก ๆ อย่างนี้ แต่ฮอนด้า แจ๊ส มาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า อัตราการประหยัดน้ำมัน 16 กิโลเมตร/ลิตร เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Shifting Control of Cornering Gravity & G Design Shift เพิ่มความสนุกด้วย Sport Paddle Shift หรือระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เรียกได้ว่าแจ๊สคันนี้ ‘เล็กพริกขี้หนู’ ถูกใจคนรักความเร็วทุกวัย

จุดเด่น: ขับสนุก, คล่องตัว, สามารถพับเบาะและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 4 โหมดการใช้งาน, เนื่องจากเป็นรถ Global Model ทำให้หาอะไหล่ ของแต่งรถง่าย สามารถสั่งจากต่างประเทศมาได้, ขายต่อราคาไม่ตก

ออฟชั่นที่น่าสนใจ: ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียง, พวงมาลัย Multi function

รุ่นย่อย: 

• Honda Jazz 1.5 S MT ราคา 555,000 บาท
• Honda Jazz 1.5 S CVT ราคา 594,000 บาท
• Honda Jazz 1.5 V ราคา 654,000 บาท
• Honda Jazz 1.5 V+ ราคา 694,000 บาท
• Honda Jazz 1.5 RS ราคา 739,000 บาท
• Honda Jazz 1.5 RS+ ราคา 754,000 บาท

6. Nissan ALMERA 1.0 Turbo เริ่มต้น 509,000 บาท

หลังนิสสัน (Nissan) ปรับโฉมนิสสัน อัลเมร่า (Nissan ALMERA) ใหม่ยกชุด แบบที่เรียกว่าจำโมเดลเดิมแทบไม่ได้ รถคันนี้จึงเรียกความสนใจจากคนที่มีงบ 500,000 – 600,000 บาท หรือคนที่อยากได้รถอีโคคาร์หน้าตาหรูหราราวกับรถยุโรป วัสดุการตกแต่งภายในดูน่าใช้ มาใช้สักคันในช่วงน้ำมันแพง เพราะอัลเมร่าโดดเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน ช่วงล่างแน่น ขับขึ้นเขาก็ยังไหว และออพชั่นที่ทางนิสสันให้มาแบบไม่มีกั๊ก แถมยังได้เครื่องยนต์เทอร์โบตัวใหม่มาช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่

นิสสัน อัลเมร่ามาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด ขนาด 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 100 แรงม้า เพิ่มด้วยเกียร์ CVT ช่วยให้เวลาเปลี่ยนเกียร์ไม่รู้สึกติดขัด นุ่มนวล ได้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มอีโค่คาร์

จุดเด่น: คุ้มราคา, ออฟชั่นจัดเต็ม

ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ: เบาะนั่งหุ้มหนังพรีเมียมช่วยลดการสะสมความร้อน, กระจกมองหลังแบบไร้กรอบ, กล้องรอบคัน, ระบบสั่งการด้วยเสียง, ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay

รุ่นย่อย: 

• Nissan ALMERA 1.0 Turbo E ราคา 509,000 บาท
• Nissan ALMERA 1.0 Turbo EL ราคา 559,000 บาท
• Nissan ALMERA 1.0 Turbo V ราคา 619,000 บาท
• Nissan ALMERA 1.0 Turbo VL ราคา 649,000 บาท
• Nissan ALMERA 1.0 Turbo VL Sportech ราคา 669,000 บาท

แทงบอล |7. Suzuki SWIFT 1.2 เริ่มต้น 557,000 บาท

ซูซูกิ สวิฟต์ (Suzuki SWIFT) รถดีไซน์น่ารักไม่เหมือนใคร เหมาะกับหนุ่มสาวยุคนี้ ทางซูซูกิ (Suzuki) ออกแบบรถรุ่นนี้มาได้อย่างลงตัว ทั้งความสวยงามและสมรรถนะการขับขี่ที่เพียงพอต่อการใช้งาน อีกทั้งซูซูกิ สวิฟต์ยังมีฐานล้อที่กว้างกว่าห้องโดยสาร ส่งผลให้ประสิทธิภาพเกาะถนนดีขึ้น และหากใครที่เน้นขับในเมือง อยากได้รถที่หาที่จอดง่าย คันนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะวงเลี้ยวแคบเพียง 4.8 เมตรเท่านั้น

ซูซูกิ สวิฟต์ใช้เครื่องยนต์ Dual Jet ขนาด 1.2 ลิตร พละกำลัง 83 แรงม้า อัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร พร้อม IDLING STOP ระบบช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง แม้แรงม้าจะน้อย แต่การใช้เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ อย่าง HEARTECH เข้ามาทำให้โครงรถมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรงทนทานเอาไว้ สวิฟต์จึงเป็นรถที่คล่องตัว และทรงตัวได้ดี

จุดเด่น: ดีไซน์ภายนอกเป็นเอกลักษณ์, ขับง่าย เหมาะกับมือใหม่

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: Cruise Control, Keyless Push Start, ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

รุ่นย่อย: 

• Suzuki SWIFT 1.2 GL ราคา 557,000 บาท
• Suzuki SWIFT 1.2 FLX ราคา 629,000 บาท

แทงบอล |8. Mitsubishi ATTRAGE 1.2 เริ่มต้น 494,000 บาท 

มิตซูบิชิ แอททราจ (Mitsubishi ATTRAGE) รถตัวเริ่มต้นจากทางมิตซูบิชิ (Mitsubishi) ที่ตอบโจทย์คนชื่นชอบมิราจ (Mirage) แต่อยากได้รถ 4 ประตู โดยมิตซูบิชิทำการยกโครงรถเดิมของมิราจ มาทำการปรับแต่ง และเพิ่มเส้นสาย ความสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน เช่น กระโปรงหน้ารถดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าตกแต่งด้วยเส้นสีแดง สมรรถนะเน้นประหยัดน้ำมัน มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า อัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร เหมาะกับคนที่ต้องการรถใช้งานทั่วไปและงบไม่สูงนัก เพราะมีหลายรุ่นให้เลือก และราคาเริ่มต้นเพียง 494,000 บาท

จุดเด่น: ออฟชั่นเพียงพอต่อการใช้งาน, ราคารุ่นท็อปไม่ถึง 600,000 บาท

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI, กล้องมองหลัง

รุ่นย่อย: 

• Mitsubishi ATTRAGE 1.2 ACTIVE MT ราคา 494,000 บาท
• Mitsubishi ATTRAGE 1.2 ACTIVE CVT ราคา 529,000 บาท
• Mitsubishi ATTRAGE 1.2 SMART CVT ราคา 584,000 บาท

9. Suzuki CIAZ 1.2 เริ่มต้น 528,000 บาท

ซูซูกิ เซียส (Suzuki CIAZ) เรียกได้ว่าเป็นรถอีโคคาร์ 4 ประตู (Sedan) ที่มีขนาดตัวถังและภายในห้องโดยสารใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ไม่น้อยหน้าคนอื่น สูสีกับทางรถตลาดอย่างฮอนด้า ซิตี้ (Honda CITY) แต่มาในรูปแบบของราคาที่ถูกกว่า และออฟชั่นที่ได้ก็คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป อะไหล่ราคาไม่สูง หลายคนยังมองว่าถ้าต้องการรถที่นั่งสบายเป็นหลัก ไม่เน้นความหวือหวา ซูซูกิ เซียส ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

แต่เรื่องที่เริ่มสู้คู่แข่งในตลาดได้ยาก นั่นคือเครื่องยนต์ที่อัตราเร่งอาจไม่ค่อยทันใจ ช่วงล่างติดนุ่มไปสักนิด และพวงมาลัยขับสนุกสู้น้องในค่ายอย่างซูซูกิ สวิฟต์ (Suzuki SWIFT) ไม่ได้ โดยซูซูกิ เซียส มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.25 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า อัตราประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตร/ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ CVT

จุดเด่น: ห้องโดยสารกว้างขวางเป็นอันดับต้น ๆ, พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถเยอะกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว, รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto, กล้องมองหลัง, Keyless Push Start,

รุ่นย่อย: 

• Suzuki CIAZ 1.2 GL MT ราคา 528,000 บาท
• Suzuki CIAZ 1.2 GL CVT ราคา 564,000 บาท
• Suzuki CIAZ 1.2 GLX CVT ราคา 628,000 บาท
• Suzuki CIAZ 1.2 RS CVT ราคา 678,000 บาท

10. Nissan NOTE 1.2 เริ่มต้น 530,000 บาท 

รถ 5 ประตู (Hatchback) ที่มองแวบแรกอาจจะนึกว่าฝาแฝด ฮอนด้า แจ๊ส (Honda JAZZ) ด้วยความเป็นรถหน้าสั้น ท้ายสั้น ที่เหมือนกันของนิสสัน โน๊ต (Nissan NOTE) ทำให้รถจากค่ายนิสสัน (Nissan) คันนี้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจของหลาย ๆ คน ที่ชอบรถ 5 ประตู ห้องโดยสารกว้างขวาง พื้นที่นั่งเหลือเฟือ คนตัวสูงสามารถนั่งได้สบาย แถมยังมีที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ด้านหลังมาให้ด้วย

นิสสัน โน๊ตมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT XTRONIC D-STEP logic ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ด้วยแรงม้าที่อาจจะเทียบรถในกลุ่มเดียวกันได้ยาก นิสสัน โน๊ตจึงดูจะเหมาะกับคนที่ต้องการรถ 5 ประตูสไตล์ฮอนด้า แจ๊ส แต่ไม่เน้นเรื่องความปรู๊ดปร๊าดไม่ได้ชอบซิ่ง เน้นประหยัดน้ำมัน ขับง่าย

จุดเด่น:  ห้องโดยสารกว้าง, พื้นที่เหนือศีรษะเหลือเฟือ, เบาะตอนหลังปรับได้หลายรูปแบบ

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ: กล้องมองภาพรอบทิศทาง, ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบแยกพับ 60 : 40, ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน

รุ่นย่อย: 

• Nissan NOTE 1.2 E ราคา 529,000 บาท
• Nissan NOTE 1.2 V ราคา 559,000 บาท
• Nissan NOTE 1.2 VL ราคา 589,000 บาท